วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เล่าประสบการณ์ให้ฟังเฉยๆ

(เขียนไว้เพื่อเป็นประสบการณ์ ความชอกช้ำ)

เมื่อวาน มีงานรับ award กัน โรปเจค ที่เราเคยเข้าไปช่วยทำงานน่ะ ปรากฏว่า คนที่อยู่ในทีม คนนึง ไม่ได้รับ แต่คนที่อยู่นอกทีม ที่เคยเข้าไปช่วยเทส ได้รับไป 2 คน คนนึงคือเด็กธรรมดา คนนึงเป็นซุปเขา ซึ่งก็คือซุปเรา
ทุกคนแปลกใจว่า ทำไม คนในทีมคนนึงถึงหลุดไป .... แต่เรารู้ เขาไม่ใช่ลูกรัก + เป็นลูกชัง และเป็น contractor โดนบีบทุกวิถีทาง เราได้แต่บอกเขาไปว่า ให้ทนอยู่ แทงหูแทงตาคนเล่นดีกว่า ไหนๆ ก็เป็น contractor ไม่รู้เขาจะตัดสัญญาเราเมื่อไหร่ ฉนั้น ก็ทำตัวตามสบายไปเลย อย่างน้อยก็ได้รับเงิน
ปรากฎว่า วันนี้ เขาได้รับ award แล้ว(ก็กระดาษแผ่นเดียว) ซึ่ง ก็เท่ากับ ทุกคนในทีมไ้ด้หมด ทีนี้ มาดูคนนอกทีม... ที่ได้ไป 2 คน
ถามว่าเขาทำอะไรให้โปรเจคนั้น ก็เด็กคนนั้น ก็เคยช่วยเทส อย่างหนักมาช่วงนึง แต่ณ ขณะนั้น เราเองก็ ทำเทส ช่วงเดียวกันเหมือนกัน หนักกว่า เพราะเป็นโปรแกรมที่ยากกว่า
ส่วนซุปนั้น ไม่ต้องพูดถึง วันๆ เป็นแต่ว้ากๆๆๆๆ เทสเหมือนกัน น้อยกว่าเรากะน้องๆ ครึ่งนึง เพราะเวลาอีกครึ่งเอาไว้ว้ากเด็ก แต่ summary ทั้งหมด พวกเราต้องทำส่งให้หล่อนไปด้วยนะ หล่อนแค่ เอาไปรวมกันแล้วส่งให้นาย ถุยยยส มาก
ก่อนหน้า 2 คนนี้ จะไปร่วมเทส เราต้องเข้าไปทำโปรแกรมให้ ถึง 2 ตัว ทำโอทีเป็นปี วันละ 2 ชม เป็นอย่างต่ำ แทบทุกวัน และทุกเสาร์ ต้องเข้ามาทำงานทั้งวัน บางทีวันอาทิตย์ ก็ต้องเข้า (แต่ไม่อยู่ทั้งวัน)
เป็นอย่างนั้นร่วมปี ผลที่ได้รับ คือ ถูกลืม... น่าเศร้าใจจริงๆ :'(

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เขาทำเป็นลืมสิ่งเหล่านี้ ณ ปีนั้น หลังจากที่เราทุ่มเทให้ ประเมินปีนั้น พูดมาเต็มปากเต็มคำว่า เราว่าง เพราะไม่ได้ส่งงานให้เราทำสักเท่าไหร่ เออนะ เราทำงานโปรเจคนั้น เพราะคุณให้เราไปทำ แต่บอกว่า ไม่ได้ทำโปรเจคตัวเองเท่าไหร่ และที่เขาบอกว่าว่าน้อย แต่เราก็รู้สึกว่ามันเท่าเดิม นั่นแหละ 

ทำไมคนเรา ถึงได้ ปากปราศรัยน้ำใจเชื่อดคอกันได้ขนาดนี้ ตอนสั่งงานมา ก็บอกว่าเราเทพ เซียน มาเกิด สำหรับ Mission impossible โดยแท้ แต่พอทำเสร็จ ได้หน้า ก็ลืมหลัง ไปสะอย่างนั้น 

เฮ้อ คนเรา 






วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เด็กน้อยกับสายลม


เด็กน้อยนั่งมองสายลมพัดที่พัดไปมาอย่างตั้งใจ หวังว่าจะได้พบกับผู้ที่รอคอย สายลมผู้หนึ่งพัดผ่านมาจึงเอ่ยถามเด็กน้อย "เจ้ากำลังรอคอยผู้ใดรึ"

เด็กน้อยเงยหน้าตอบ "เราได้ฝากข้อความให้คนผู้หนึ่ง ไปกับสายลมคนก่อน แต่ใยสายลมผู้นั้นจึงไม่นำข้อความใดกลับคืนกลับมาบ้าง เราอยากรู้..."

"เราแค่อยากรู้ถึงความเป็นไปของคนที่เราระลึกถึงเท่านั้น คุณช่วยนำข้อความของเราไปยังเขา และนำข้อความจากเขามาให้เราทีได้ไหม?"

สายลมผู้นั้นตอบว่า "สายลมที่พัดไปแล้ว ไม่มีทางหวนกลับมาอีก เจ้าอย่าได้รออีกเลย ส่วนความระลึกถึงของเจ้า เราจะช่วยเอง" แล้วสายลม ก็พัดผ่านไป



เครดิตภาพหลังจาก google 

ดอกไม้กับแจกัน

มีดอกไม้อยู่ดอกนึงนะ เติบโตขึ้นมาเองกับฟ้าใส หญ้าเขียว เลยยื่นหน้ายื่นตาสูดอากาศอย่างสบายใจ วันหนึ่ง มีคนมาเจอ เห็นว่าดอกไม้สวยดี..

เลยถามดอกไม้ว่า แจกันฉันว่าง มาอยู่ในแจกันของฉันได้ไหม ดอกไม้ถามว่าชีวิตในแจกัน คงน่าอยู่ใช่ไหม เขาว่า เขารับรองว่า มันต้องวิเศษแน่

ดอกไม้จึงยินยอมพร้อมใจ เข้าไปอยู่ในแจกัน เขาภูมิใจมากที่ได้ดอกไม้นั้นไว้ เมื่อมีคนถามถึงดอกไม้เขามักจะบอกว่า บังเอิญได้เจอเลยเก็บมา

เขาไม่เคยรู้เลยว่า ต้องดูแลดอกไม้อย่างไร รู้แต่ว่า ดอกไม้นั้นเติบโตเองโดยธรรมชาติ สายลม และแสงแดด จะทำให้ดอกไม้มีชีวิตอยู่ได้

โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยพรวนดิน ดอกไม้เองนั้น เมื่อพรากจากใบหญ้าและพื้นดิน ขาดความชุ่มชื้นและที่พักพิง รากไม่สามารถหยั่งลึกได้ จึงเริ่มเฉา

เขาไม่เคยรู้เลยว่า ดอกไม้ต้องการที่ยึดเหนี่ยว ต้องการความชุ่มชื้น และความเอาใจใส่ "ผมไม่รู้ว่าดอกไม้จะเปลี่ยนไป" เขาจึงละทิ้งมัน

ดอกไม้เมื่อกลับสู่ดิน ก็มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ภายในใจระแวงระวังคนเก็บดอกไม้ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เมื่อมีคนเสนอแจกันใบงามให้อีกครั้ง

ดอกไม้ถามว่า แน่ใจว่าจะดูแลเราอย่่างดีนะ เธอต้องให้น้ำ ให้ที่พักพิง แสงแดด ปุ๋ย เพื่อความสดใสอันยาวนานของฉัน เขาตกลงโดยไม่เกี่ยงงอน

หารู้ไหมว่าแจกันใบงาม สวยหรู ราคาแพง พร้อมคนดูแลเอาใจใส่ ย่อมเป็นที่หมายตาของดอกไม้มากมาย แต่ดอกไม้ดอกนั้น อึดอัดเกินกว่าจะอยู่ร่วม

กับดอกอื่นได้ จึงได้ขอลามาอยู่กับดินตามเดิม บอกกับตัวเองว่า หากใครต้องการเชยชมดอกไม้ ขอให้เข้ามาที่สวนแห่งนี้ อย่าได้มาเด็ดไปอีกเลย

เพราะหากไม่สนใจรดน้ำใส่ปุ๋ย ดอกไม้ก็หาเองได้ตามอัตภาพ แม้ต้องเจอหน้าแล้ง ผลัดใบบ้าง แต่หน้าฝนก็ยังผ่านเข้ามาเสมอ

แต่หากต้องไปอยู่ในแจกัน ก็คงต้องรอเวลาร่วงโรย เหมือนดอกไม้ที่ถูกซื้อไป ตามเทศกาล เมื่อเวลาหมดลงก็หมดความหมาย


วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

KIWI Cafe'

เข้ามานั่งเล่นในร้านกาแฟสักแป้บ เดี๋ยวจะต้องไปทำธุระต่อ เพื่อนแนะนำมาที่นี่ กีวีคาเฟ่ ตอนนี้เวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ ขับรถมาเรื่อยๆ เกือบเลย 555 เพราะมัวแต่มองบึงที่อยู่ตรงข้ามของถนน

เข้ามา สั่งไวท์ช้อกปั่น ไม่หวาน กลิ่นช้อกหอมดี ขาวจั้วะ ยังกะกินนมสด อิอิ

และขาดไม่ได้ ของขบเคี้ยว อันนี้เคี้ยวหนักเชียว สตรอเบอรรี่ชีสเค้ก แหมๆ ก็ขอบ้างไรบ้าง เพิ่มไขมันส่วนเกิน

ร้านนั่งสบายดี เราชอบที่มีพัดลมติดเพดานนะ เราว่าให้ความเย็นได้ดี เราเลือกมานั่งตรงที่แอร์ไม่ตก ก็จะได้ลมเย็นๆ เหมือนนั่ง open air แหละ

ชั้นบน มีหนังสือให้อ่าน ไม่รู้มีอะไรบ้าง ไม่ค่อยสนใจ สนแค่ ตรงที่นั่งตัวนี้ มีปลั๊กไฟให้ชาร์ท 5555

บรรยากาศด้านนอก ถ้าเย็นๆ จะเลือกนั่งล่ะ แต่หลังเที่ยงแบบนี้ ขออยู่ด้านในนะ ^^/





วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Memories : Chapter one

เก็บห้อง เจอข้อความเขียนบ่นตัวเองตั้งแต่สมัยปี3 เมิงเขียนให้ยากไปทำไมวะ กรุอ่านไม่อ๊อกกกก 

5555 คะแนนม.6 เป็นแบบนี้ ต้องออกบวชอย่างเดียวเท่านั้น ก้ากๆๆๆๆๆ :D.

look!! what love has done to me :) หนังเรื่องนี้ชอบมาก
ต๊ายยย เพจเบอร์นี้ยังใช้ได้อยู่ไหมอ่า 
เหยดดดด เมิงเรียนอะไรมาวะ แสรดดด!!!! 
จะเก็บไว้เป็นความทรงจำดีมะเนี่ย รางวัลที่ได้มาจากรานการ 180 iq *จริงๆนั่งเงียบเพื่อนตอบหมด 5555 
เฮ้ยยยย เคยมีโรงหนังชื่อนี้ด้วยหราาา ไปดูไรเนี่ย นึกไม่ออกเลย :D

สคส จากเพื่อนๆ ดูแล้วก็ เอ่อ... เธอเป็นครายน่ะ ลืมไปแว้วววว
สมัยนั้นรู้สึกว่า สคส ยิ่งเล็ก ยิ่งฮิป นะ :) 
เจอว่าไปกันตั้ง 4คน คงไม่ใช่โรงฉายหนังหวิวหรอกนะ 5555 *กุม่ายรุ้ กุลืม :D
จะกระจายไปไหน :D กรุรู้แล้วทำไมตัวเองสอบตก ก็ดูมันเขียนดิ ไม่รู้เรื่องสักเตื้อ ไม่อธิบายไรเลยยย xD)) 
หนังสือเล่มนี้ถูกเก็บไว้นานนม มิใช่เพราะเนื้อหาในหนังสือ แต่เพราะปกหุ้มหนังสือ!! :D 
เจอสมุดพกเว่ยเฮ้ย !! :D *ไม่ต้องเก็บของกัน *ครูให้ปรับปรุงนิสัย(ฟ้องแม่) แม่ก็โยนให้ครู สรุปความรับผิดชอบใคร? :D 
ใจหาย - unofficial love by ดุสิตา *ขออภัยที่ต้องเอ่ยนาม
ตูก็เด่กอ้อกเพิดนาเฟ้ย *เนียน http://yfrog.com/odmqddcj เคยสงสัยมั้ย ไอ้ต้องแปลไทยเป็นไทยล่ะโดนเหยียดหยาม ทีแปลฝรั่งต้องเดาะแปลเป็นฝรั่งอีกไ
เมื่อก่อนต้องมีติดห้อง แงะเครื่อง pc เอง ตอนนี้ใช้ nb จะแงะก็กลัวเสียประกัน เลยอยู่ซอกลึกๆของชั้นวางของ 
สมุดวาดรูป 
ใครอ่านออกทั้งหมด เลี้ยงดินเน่อ 1มื้อ :D 



วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

การใช้ Tablet กับนักเรียนชั้น ป.1

เห็นพูดกันมากเรื่องนโยบายแจก tablet นักเรียนชั้นป.ว่า
เป็นนโยบายที่ยังไม่พร้อมในหลายๆด้าน
ที่สำคัญคือยังมีหนังสือให้อ่านได้ไม่เยอะ
และส่วนใหญ่เน้นไปที่หนังสือที่หาอ่านได้ตามห้องสมุด
หรือร้านหนังสือทั่วไป ซึ่ง
มันเป็นมุมมองที่ไม่ได้ปฏิรูปอะไรสักเท่าไหร่เลยนะ

การทำหนังสืออิเลคโทรนิค ใช่ หนังสือที่เป็นกระดาษ ถ้าจะให้อ่านใน tablet
ได้ก็ต้องทำให้อยู่ในรูป ebook ซะก่อน ซึ่ง ผู้ใหญ่ตัวโตๆ อย่างเราๆ
ท่านๆ ที่ชอบ "เลี่ยงการซื้อหนังสือลิขสิทธิ์" ไอ้ที่ชอบอ่านฟรีนั่นแหละ
ก็คิดแต่ว่า เออ ถ้ามี tablet แจกแล้ว ก็น่าจะมี ebook
ที่ก้อบหนังสือกระดาษเข้าไปด้วย เพื่อที่ เด็กๆ จะได้ "ใช้ tablet อ่าน
ebook แทนการอ่านหนังสือ" << ตรงนี้แหละ เป็นอุดมคติที่ผิดมหันต์

หากเราพยายามใช้ tablet แทนการพิมพ์หนังสือกระดาษ
ก็ไม่มีประโยชน์มากไปกว่า กระประหยัดป่าไม้
เพื่อให้พวกชนชั้นอภิสิทธิ์ตัดไปปลูกบ้านเรือนแพงๆเท่านั้นแหละ
(วกได้วุ้ยย)

การใช้ tablet นั้น ควรมองว่า เป็นสื่อการสอนอย่างหนึ่ง
ไม่ใช่มีไว้แทนหนังสือเรียน แบบฝึกหัด หรือการจดบันทึกความจำ(โน๊ต)
มันไม่ได้เอาเข้ามาเพื่อ"แทน"ชีวิตประจำวันของเขา
แต่เอามาเพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการเรียนรู้ตะหาก

เราเพิ่มสมรรถภาพในการเรียนรู้ได้อย่างไร?

มีสองแบบให้เลือก ระบบเปิด หรือระบบปิด

ระบบเปิด แน่นอน internet มีส่วนสำคัญอย่างมาก ยกตัวอย่าง มีหลานป.4
มาถามว่า "น้าครับ ดาวดวงไหนใหญ่ที่สุดในจักรวาล"

เราตอบไม่ได้หรอก ก็บอกเขาว่า ลองไปค้นหาดูที่ google ดีไหม
เขาก็ไปลองค้นหาดู สิ่งที่เขาจะได้จากการค้นหา
"ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในแบบเรียน" แต่เป็นบทความหรือบทวิจัย
ที่จะทำให้เขาได้รู้อะไรมากไปกว่าสิ่งที่เขาอยากรู้อีกด้วย
จากคำถามที่ถามว่า ดาวดวงไหนใหญ่ที่สุดในจักรวาล
ทำให้เขาได้ความรู้ใหม่คือ จักรวาลไม่ได้มีแค่ "กาแลคซี่ดาวช้างเผือก"

แน่นอน internet มีส่วนดีและส่วนเสีย แต่หากเราเตรียมพร้อมเรื่อง"วิธีใช้
tablet เป็นสื่อการสอน" ย่อมดีกว่าไปเน้นที่ตัวหนังสือกระดาษหรือ
electronics

และไม่ว่าจะเป็น internet หรือไม่ใช่ internet
ผู้ปกครองก็ควรดูแลบุตรหลายใฝ่รู้ของท่านด้วยความรอบคอบ
หากไม่อยากให้บุตรหลาน ต้องเจอสิ่งไม่ดี ที่มีอยู่ทั่วไปในสังคมไทย

อีกระบบ คือ ระบบปิด

ส่วนนี้ ใช้ intranet ในการเข้าถึงคลังข้อมูล
ซึ่งสามารถทำได้โดยการตั้งแค่การใช้งานให้อยู่เฉพาะ server
ในโรงเรียนเท่านั้น ทางโรงเรียน ก็เอาบทความวิจัย ที่คัดสรรแล้ว
จัดเป็นหมวดหมู่ ให้เด็กได้เข้าไปค้นคว้าหาข้อมูลเอง server นี้
สามารถจัดส่งมาตามหน่วยกลางได้ หรือ ทางโรงเรียนจะดูแลกันเองก็ได้
แต่ข้อมูลก็อาจจะมีจำกัดไปบ้าง
ตามความพร้อมและวิสัยทัศน์ของหน่วยกลางกับทางโรงเรียน

แต่ทั้ง 2 ระบบนี้ "ไม่จำเป็นต้องทนแทนหนังสือแบบเรียนเดิมๆ
ด้วยการทำให้แบบเรียนไปเป็น ebook แล้วทำแบบฝึกหัดผ่าน tablet!"

*การเข้าถึง intranet สามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอ 3g หรือ wifi hispeed
ที่ไหนเลย แต่ก็ต้องลงทุนมากเช่นกัน

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กระเป๋าประดิษฐ์แบบญี่ปุ่น

15:46
ทำกระเป๋าขึ้นมาหนึ่งใบ เป็นชุดคิดส์ ที่ได้มา เขาแจกในงานนิทรรศการละม้าง แต่ว่ามันเป็นชิ้นๆที่ตัดเสร็จเรียบร้อย ประเด็นคือ เราก็เพิ่งเคยเย็บจักรเป็นครั้งแรก แต่เดี๋ยวนี้มันทำง่ายนะ ได้ขนาดนี้ ไม่รู้ซื้อจักรดี หรือไอเดียการประดิษฐ์มันพัฒนาขึ้นมากก็ไม่รู้นะ :)


ส่ง​จาก Samsung ​Galaxy ​Note

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

ภาพสำคัญ




ส่ง​จาก Samsung ​Galaxy ​Note

เก็บภาพสำคัญ


เอาไว้ดู และเอาไว้แชร์ อิอิ 

ส่ง​จาก Samsung ​Galaxy ​Note

19:09
วันนี้ อาการซึมเศร้าเริ่มทำงานอีกหน อะไรหลายอย่างเกิดขึ้นและจบลงอย่างผิดคาด บางอย่างเกิดมาแล้วกำลังทำใจ อย่างใหม่ก็เข้ามาอีก นี่แหละที่เรียกว่ามรสุมชีวิต สินะ

เวลาหงุดหงิด ท้องมักจะหิว ไม่รู้เกี่ยวกันรึเปล่านะ แต่ถ้าท้องอิ่มแล้วล่ะก้อ ดูเหมือนอะไรๆ มันจะง่ายขึ้น ดีขึ้น ยิ่งได้อาหารถูกปาก ที่คุ้นเคย พนักงานน่ารักๆ ก็ยิ่งดี นั่งกินชิวๆ

ชอบนั่งเอ้าท์ดอร์นะ ลมเย็นๆ เสียงนรกเสียงไม้ แม้จะนั่งคนเดียวแต่ก็สบายใจดี

จะโหดก็ตรงที่ มาคนเดียว เสียค่าน้ำแข็งเต็มถังเนี่ยแหละ แหม ทิ้งมันละลายไปเฉยๆเลย ;(


ส่ง​จาก Samsung ​Galaxy ​Note

วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

15:59
   วันนี้ ได้แกแลกซี่โน๊ตมาใหม่ ก็เดินเข้าไปกินซานตาเฟ แล้วก็ถ่ายรูปเอาไว้ แหม ชอบกล้องแบบนี้จริงๆ :)


ส่ง​จาก Samsung ​Galaxy ​Note