มีดอกไม้อยู่ดอกนึงนะ เติบโตขึ้นมาเองกับฟ้าใส หญ้าเขียว เลยยื่นหน้ายื่นตาสูดอากาศอย่างสบายใจ วันหนึ่ง มีคนมาเจอ เห็นว่าดอกไม้สวยดี..
เลยถามดอกไม้ว่า แจกันฉันว่าง มาอยู่ในแจกันของฉันได้ไหม ดอกไม้ถามว่าชีวิตในแจกัน คงน่าอยู่ใช่ไหม เขาว่า เขารับรองว่า มันต้องวิเศษแน่
ดอกไม้จึงยินยอมพร้อมใจ เข้าไปอยู่ในแจกัน เขาภูมิใจมากที่ได้ดอกไม้นั้นไว้ เมื่อมีคนถามถึงดอกไม้เขามักจะบอกว่า บังเอิญได้เจอเลยเก็บมา
เขาไม่เคยรู้เลยว่า ต้องดูแลดอกไม้อย่างไร รู้แต่ว่า ดอกไม้นั้นเติบโตเองโดยธรรมชาติ สายลม และแสงแดด จะทำให้ดอกไม้มีชีวิตอยู่ได้
โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยพรวนดิน ดอกไม้เองนั้น เมื่อพรากจากใบหญ้าและพื้นดิน ขาดความชุ่มชื้นและที่พักพิง รากไม่สามารถหยั่งลึกได้ จึงเริ่มเฉา
เขาไม่เคยรู้เลยว่า ดอกไม้ต้องการที่ยึดเหนี่ยว ต้องการความชุ่มชื้น และความเอาใจใส่ "ผมไม่รู้ว่าดอกไม้จะเปลี่ยนไป" เขาจึงละทิ้งมัน
ดอกไม้เมื่อกลับสู่ดิน ก็มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ภายในใจระแวงระวังคนเก็บดอกไม้ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เมื่อมีคนเสนอแจกันใบงามให้อีกครั้ง
ดอกไม้ถามว่า แน่ใจว่าจะดูแลเราอย่่างดีนะ เธอต้องให้น้ำ ให้ที่พักพิง แสงแดด ปุ๋ย เพื่อความสดใสอันยาวนานของฉัน เขาตกลงโดยไม่เกี่ยงงอน
หารู้ไหมว่าแจกันใบงาม สวยหรู ราคาแพง พร้อมคนดูแลเอาใจใส่ ย่อมเป็นที่หมายตาของดอกไม้มากมาย แต่ดอกไม้ดอกนั้น อึดอัดเกินกว่าจะอยู่ร่วม
กับดอกอื่นได้ จึงได้ขอลามาอยู่กับดินตามเดิม บอกกับตัวเองว่า หากใครต้องการเชยชมดอกไม้ ขอให้เข้ามาที่สวนแห่งนี้ อย่าได้มาเด็ดไปอีกเลย
เพราะหากไม่สนใจรดน้ำใส่ปุ๋ย ดอกไม้ก็หาเองได้ตามอัตภาพ แม้ต้องเจอหน้าแล้ง ผลัดใบบ้าง แต่หน้าฝนก็ยังผ่านเข้ามาเสมอ
แต่หากต้องไปอยู่ในแจกัน ก็คงต้องรอเวลาร่วงโรย เหมือนดอกไม้ที่ถูกซื้อไป ตามเทศกาล เมื่อเวลาหมดลงก็หมดความหมาย