วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เด็กน้อยกับสายลม


เด็กน้อยนั่งมองสายลมพัดที่พัดไปมาอย่างตั้งใจ หวังว่าจะได้พบกับผู้ที่รอคอย สายลมผู้หนึ่งพัดผ่านมาจึงเอ่ยถามเด็กน้อย "เจ้ากำลังรอคอยผู้ใดรึ"

เด็กน้อยเงยหน้าตอบ "เราได้ฝากข้อความให้คนผู้หนึ่ง ไปกับสายลมคนก่อน แต่ใยสายลมผู้นั้นจึงไม่นำข้อความใดกลับคืนกลับมาบ้าง เราอยากรู้..."

"เราแค่อยากรู้ถึงความเป็นไปของคนที่เราระลึกถึงเท่านั้น คุณช่วยนำข้อความของเราไปยังเขา และนำข้อความจากเขามาให้เราทีได้ไหม?"

สายลมผู้นั้นตอบว่า "สายลมที่พัดไปแล้ว ไม่มีทางหวนกลับมาอีก เจ้าอย่าได้รออีกเลย ส่วนความระลึกถึงของเจ้า เราจะช่วยเอง" แล้วสายลม ก็พัดผ่านไป



เครดิตภาพหลังจาก google 

ดอกไม้กับแจกัน

มีดอกไม้อยู่ดอกนึงนะ เติบโตขึ้นมาเองกับฟ้าใส หญ้าเขียว เลยยื่นหน้ายื่นตาสูดอากาศอย่างสบายใจ วันหนึ่ง มีคนมาเจอ เห็นว่าดอกไม้สวยดี..

เลยถามดอกไม้ว่า แจกันฉันว่าง มาอยู่ในแจกันของฉันได้ไหม ดอกไม้ถามว่าชีวิตในแจกัน คงน่าอยู่ใช่ไหม เขาว่า เขารับรองว่า มันต้องวิเศษแน่

ดอกไม้จึงยินยอมพร้อมใจ เข้าไปอยู่ในแจกัน เขาภูมิใจมากที่ได้ดอกไม้นั้นไว้ เมื่อมีคนถามถึงดอกไม้เขามักจะบอกว่า บังเอิญได้เจอเลยเก็บมา

เขาไม่เคยรู้เลยว่า ต้องดูแลดอกไม้อย่างไร รู้แต่ว่า ดอกไม้นั้นเติบโตเองโดยธรรมชาติ สายลม และแสงแดด จะทำให้ดอกไม้มีชีวิตอยู่ได้

โดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยพรวนดิน ดอกไม้เองนั้น เมื่อพรากจากใบหญ้าและพื้นดิน ขาดความชุ่มชื้นและที่พักพิง รากไม่สามารถหยั่งลึกได้ จึงเริ่มเฉา

เขาไม่เคยรู้เลยว่า ดอกไม้ต้องการที่ยึดเหนี่ยว ต้องการความชุ่มชื้น และความเอาใจใส่ "ผมไม่รู้ว่าดอกไม้จะเปลี่ยนไป" เขาจึงละทิ้งมัน

ดอกไม้เมื่อกลับสู่ดิน ก็มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ภายในใจระแวงระวังคนเก็บดอกไม้ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เมื่อมีคนเสนอแจกันใบงามให้อีกครั้ง

ดอกไม้ถามว่า แน่ใจว่าจะดูแลเราอย่่างดีนะ เธอต้องให้น้ำ ให้ที่พักพิง แสงแดด ปุ๋ย เพื่อความสดใสอันยาวนานของฉัน เขาตกลงโดยไม่เกี่ยงงอน

หารู้ไหมว่าแจกันใบงาม สวยหรู ราคาแพง พร้อมคนดูแลเอาใจใส่ ย่อมเป็นที่หมายตาของดอกไม้มากมาย แต่ดอกไม้ดอกนั้น อึดอัดเกินกว่าจะอยู่ร่วม

กับดอกอื่นได้ จึงได้ขอลามาอยู่กับดินตามเดิม บอกกับตัวเองว่า หากใครต้องการเชยชมดอกไม้ ขอให้เข้ามาที่สวนแห่งนี้ อย่าได้มาเด็ดไปอีกเลย

เพราะหากไม่สนใจรดน้ำใส่ปุ๋ย ดอกไม้ก็หาเองได้ตามอัตภาพ แม้ต้องเจอหน้าแล้ง ผลัดใบบ้าง แต่หน้าฝนก็ยังผ่านเข้ามาเสมอ

แต่หากต้องไปอยู่ในแจกัน ก็คงต้องรอเวลาร่วงโรย เหมือนดอกไม้ที่ถูกซื้อไป ตามเทศกาล เมื่อเวลาหมดลงก็หมดความหมาย


วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555

KIWI Cafe'

เข้ามานั่งเล่นในร้านกาแฟสักแป้บ เดี๋ยวจะต้องไปทำธุระต่อ เพื่อนแนะนำมาที่นี่ กีวีคาเฟ่ ตอนนี้เวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ ขับรถมาเรื่อยๆ เกือบเลย 555 เพราะมัวแต่มองบึงที่อยู่ตรงข้ามของถนน

เข้ามา สั่งไวท์ช้อกปั่น ไม่หวาน กลิ่นช้อกหอมดี ขาวจั้วะ ยังกะกินนมสด อิอิ

และขาดไม่ได้ ของขบเคี้ยว อันนี้เคี้ยวหนักเชียว สตรอเบอรรี่ชีสเค้ก แหมๆ ก็ขอบ้างไรบ้าง เพิ่มไขมันส่วนเกิน

ร้านนั่งสบายดี เราชอบที่มีพัดลมติดเพดานนะ เราว่าให้ความเย็นได้ดี เราเลือกมานั่งตรงที่แอร์ไม่ตก ก็จะได้ลมเย็นๆ เหมือนนั่ง open air แหละ

ชั้นบน มีหนังสือให้อ่าน ไม่รู้มีอะไรบ้าง ไม่ค่อยสนใจ สนแค่ ตรงที่นั่งตัวนี้ มีปลั๊กไฟให้ชาร์ท 5555

บรรยากาศด้านนอก ถ้าเย็นๆ จะเลือกนั่งล่ะ แต่หลังเที่ยงแบบนี้ ขออยู่ด้านในนะ ^^/