วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ว่าด้วยความสัมพันธ์ของ กู+

G+ ทำให้คุณรู้จักผู้คนใหม่มากขึ้น แต่มันก็ทำให้รู้จักคนข้างๆน้อยลง ..

G+ มีเรื่องใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาที จนเรื่องเก่าๆบางเรื่องถูกเบียดหายไปจากความทรงจำ ..

G+ ทำให้คนไม่รู้จักกันคุยกันได้ และทำให้คนที่รู้จักกันไม่ได้คุยกัน ..

G+ ทำให้โลกคุณกว้างขึ้น และมันก็ทำให้คุณห่างไกลกับคนข้างๆมากขึ้นเช่นกัน ..

ระวัง.. อย่าลืมคนสำคัญนะคะ

......

ปล. อยากจะเขียนมากกว่านี้ แต่ไม่รู้จะเขียนอะไร

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การรับรู้เรื่อง "สี" ในสายตาคนเรา

นี่ก็ได้มาจาก FW mail เหมือนกัน การรับรู้ของคนเรานั้น มักจะมีบริบทเป็นปัจจัย
หากรอบๆ ขาว เราก็รับรู้สิ่งที่เป็นสีเทาว่าดำ หากรอบๆดำ สีเทาก็จะขาว"กว่า" เป็นต้น
 
จากรูป ลองมองดูสิว่า ช่อง A หรือ B ช่องไหนขาว หรือ ดำกว่ากัน
 
ดูเฉลยได้ที่นี่เลยจ้า
http://trunc.it/gv0g8
 
 
สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริง ก็คือ คนเรามักเปรียบเทียบเสมอ
เปรียบสิ่งใดสิ่งหนึ่งกับสิ่งรอบข้างบ้าง กับสิ่งที่พึงพอใจบ้าง
โดยลืมเลือนที่จะมองถึงคุณลักษณะของสิ่งๆนั้น
เช่นเน้องเล็ก เรียนดีกว่าพี่ใหญ่ ผู้ใหญ่บางคนก็บอกว่า เรียนให้ดีกว่านี้หน่อย
ทั้งๆที่ พี่ใหญ่อาจจะเรียนดีอยู่แล้ว
 
หรือน้องเล็ก เรียนได้ที่ 25 ของห้อง แต่ในห้องมี 26 คน หรือ มี 45 คน
มันจะดูผิดกันเลย ชิมิ..
 
 
 
 
 
 
 
.

ว่าด้วย FW mail เรื่องกำเนิดกัมพูชา (ไม่มีเนื้อเรื่อง วิจารณ์อย่างเดียว)

ได้รับ FW เมล์ เกี่ยวกับกำเนิดกัมพูชา ซึ่งคนเขียนเมล์ พยายามบอกว่า
มีผู้แปลมาจากพงศาวดารเขมร และคนแปลนั้นเชี่ยวชาญภาษาเขมรแค่นั้น
 
เนื้อหาไม่มีไร บอกแค่ว่า"ผมไม่รู้ว่าจริงป่าวๆๆ" แต่ตัวเองก็ได้ส่งเมล์ออกไปทั่วแล้ว
ที่สำคัญ เนื้อหาได้อ้างถึงพุทธพจน์ ว่าเป็นพุทธทำนาย
 
ใจความของเรื่องก็คือ ท่านเห็นตะกวด ออกมาจากโพรงต้นไม้ แล้วปาข้าวให้มันกิน
แล้วเกิดพุทธทำนายว่า จากนี้ลูกหลานของตะกวดนี้จะสร้างเมือง(ก็คือกัมพูชา)
เทวดาจะมาสร้างปราสาท (นครวัด) และประชาชน จะมีนิสัยเชื่อไม่ได้(ลิ้น 2 แฉก)
เหมือนบรรพบุรุษ (ตัวเงินตัวทอง)
 
เนี่ยแหละ ที่เขาฮา และส่งต่อกัน แต่ถามจริง ฮากันได้ไง
เราเอามาบอกต่อ เราไม่ได้ฮากะเนื้อเรื่อง แค่บอกว่าเป็นพุทธพจน์ ท่านเดินมาถึงนี่ เราก็ไม่เชื่อแล้ว
มีในพระไตรปิฏกหรือเปล่า เอามายืนยันก่อนเหอะ
แต่เชื่อเหอะ ที่สะใจกันก็แค่ บรรพบุรุษเขามาจากไหนเนี่ยแหละ
 
บ้านอื่นเมืองอื่น เขาไม่ได้เปรียบเทียบคนแย่ๆ เป็นตะกวด หรอกนะ มีก็แต่เมืองไทยเนี่ยแหละ
ฉนั้น คนที่ฮา ก็มีแต่คนไทย ฝรั่งยังถามเลยตอนที่บอกว่า ชื่อของมันเป็นคำหยาบ แล้วคนไทยเอามาด่ากัน
เขาถามอยู่นั่นว่า ทามมัย ทามมัย มันอยู่ของมันดีๆ มันทำอะไรผิดเรอะ !!
 
(ปล. เขาอาจจะคิดว่าเขามาจากตะกวด จริงๆ ก็ได้ เพราะตะกวด มันเป็น
สัตว์ที่อยู่ยงคงกระพัน มานานพอๆกะแมลงสาปแหละ อยู่มานานกว่าลิงอีก
เป็นสัตว์พันไดโนเสาร์ ไรงี้)
 
คนที่เขา FW มาคงคิดว่า ส่งมาให้อ่าน ขำๆ อย่าซีเรียส... ที่ซีเรียสน่ะ ก็ตรงที่
ผิดหวังในตัวเขานั่นแหละ ที่ส่งข้อความแบบนี้กระจายให้คนอื่นทำไม เก็บไว้กับตัวก็ได้
เอามาเล่าให้กันฟังก็พอ คิดเหรอ ในใจตัวเองน่ะ อ่านเอาแค่ขำ ไม่มีคำว่าสะใจ หรือเห็นด้วย
หรือว่า ด่าคนประเทศอื่นยังไงก็ได้ แต่ถ้าเขาด่าคนไทยเราต้องเดือดร้อน?
 
ใครๆ ก็เป็นมนุษย์ เหมือนกัน เขาจะชั่วแค่ไหน ไม่ได้เป็นเหตุผลให้เราไปด่าว่าใคร
เราตะหาก ตัวเราเองตะหาก ดีพอ ที่จะไปว่าใครหรือเปล่า? คิดเอาเอง ตรองเอาเอง
 
 
 
 
 

วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ต่อไปนี้นะ - นิกโคล

ฉันรู้ว่าเธอก็อาจรำคาญเวลาที่เจอฉัน ก็คอยแต่แกล้งเธอ
ฉันรู้ว่าเธอไม่เคยชอบใจ ที่ทำแต่ปัญหา ให้โกรธอยู่เสมอ

เห็นเฉยเมยกับฉัน ทำเย็นชาอย่างนั้น มันคงจะแปลว่าไม่ต้องการไม่อยากเจอ

ต่อไปนี้นะ จะไม่ยุ่งเลย ถ้าหากมันทำให้เธอต้องกลุ้มใจ
ต่อไปนี้นะ จะไม่วุ่นวาย จะไม่มารบกวนหัวใจ ไม่มาให้เห็นเลย

รู้ไหมฉันเองก็อยากเอาใจ ทำตัวให้ดีไว้ ทำไปด้วยรักเธอ
ทุกครั้งก็เป็นอย่าเดิมทุกที ทำไปว่าดีแล้ว กลับผิดอยู่เสมอ

เห็นเฉยเมยกับฉัน ทำเย็นชาอย่างนั้น มันคงจะแปลว่าไม่ต้องการไม่อยากเจอ

ต่อไปนี้นะ จะไม่ยุ่งเลย ถ้าหากมันทำให้เธอต้องกลุ้มใจ
ต่อไปนี้นะ จะไม่วุ่นวาย จะไม่มารบกวนหัวใจ ไม่มาให้เห็นเลย

คงเป็นคราวนี้ที่ทำถูกสักหนึ่งครั้ง ก็เพียงแต่หวังว่าเธอาจจะโล่งใจ

ต่อไปนี้นะ จะไม่ยุ่งเลย ถ้าหากมันทำให้เธอต้องกลุ้มใจ
ต่อไปนี้นะ จะไม่วุ่นวาย จะไม่มารบกวนหัวใจ ไม่มาให้เห็นเลย

ต่อไปนี้นะ จะไม่ยุ่งเลย ถ้าหากมันทำให้เธอต้องกลุ้มใจ
ต่อไปนี้นะ จะไม่วุ่นวาย จะไม่มารบกวนหัวใจ ไม่มาให้เห็นเลย

ไม่มาให้เห็นเลย
 
---------------------------------------------------------------
 
พี่ดิ้เคยบอกว่าเราเหมือนนิกกี้ด้วยล่ะ โฮ่โฮ่ (กะโปโลนะ)
 

The missing piece meets the BIG O - by Shel Silverstein

ชื่อเป็นไทยว่า การเดินทางของส่วนที่หายไป เป็นหนังสือที่ดีมาก ภาพน้อย อักษรน้อย แต่คือความหมายของชีวิตใครบางคน อยากจะเอาตาม ยุตูปมาให้ดู แต่ดูแล้ว ไม่ใจ หาซื้ออ่านเอาดีกว่านะ มันอึ้ง บอกไม่ถูก

เหมือนนั่งจิบกาแฟขมๆ ปริมาณนิดเดียวแค่ลิ้นเลีย แต่ความรู้สึก มันเข้มข้น ยากจะเลือนลาง..

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

I'll never fall in love again...

What do you get when you fall in love?
A guy with a pin to burst your bubble
That's what you get for all your trouble
I'll never fall in love again
I'll never fall in love again

What do you get when you kiss a guy?
You get enough germs to catch pneumonia
After you do, he'll never phone ya
I'll never fall in love again
Dontcha know that I'll never fall in love again?

Don't tell me what it's all about
'cause I've been there and I'm glad I'm out
Out of those chains, those chains that bind you
That is why I'm here to remind you

What do you get when you fall in love?
You only get lies and pain and sorrow
So far at least until tomorrow
I'll never fall in love a-gain
No, no, I'll never fall in love again

Ahh, out of those chains, those chains that bind you
That is why I'm here to remind you

What do you get when you fall in love?
You only get lies and pain and sorrow
So far at least until tomorrow
I'll never fall in love a-gain
Dontcha know that
I'll never fall in love a-gain
I'll never fall in love a-gain

ถ้าไม่มีโลก พระอาทิตย์และพระจันทร์ คงมีโอกาสทักทายกันบ้าง

แต่ในความเป็นจริง มันคงเป็นไปไม่ได้ ในโลกนี้มีของ2สิ่งที่ตรงข้ามกันเสมอ และมันก็ไม่มีประโยชน์มาจะมาอยู่ร่วมกัน รวมทั้งไม่มีโอกาสเลย...

ระหว่างเธอกับฉัน อะไรที่กั้นระหว่างเรากันนะ?

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

พูดไม่ค่อยเก่ง.... (ปากเสีย) :p

รู้สึกว่า ช่วงนี้ จะปากไม่ค่อยดีนะ จริงๆ มันก็เสียมานานแล้วล่ะแต่ไม่เคยสนใจ ใครไม่อยากฟังก็ไม่ว่าไรไปให้พ้น เรื่องไรฉันต้องไปสนใจขี้หมูขี้หมา กาไก่ในโลกนี้ด้วย

แต่ก็มีไม่กี่คนหรอก ที่ถ้าเราเผลอพูดไรไม่ดี เราเองนั่นแหละที่ต้องมานั่งเสียใจ คนเหล่านั้นไม่เคยโทษ ที่เราเป็นคนแบบนี้ และนั่นถึงทำให้เขาเป็นคนสำคัญสำหรับ และทำให้เราต้องเสียใจกับคำพูดเล็กๆน้อยๆ มี่พูดออกไป

เสียใจจริงๆ ถึงเขาเหล่านั้นจะไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่บางมีเราก็รู้ดีว่า ไม่พูดสะดีกว่า

เอาล่ะ ดูท่าปีนี้จะดวงไม่ดีจริงๆ อ่านคำทำนายมาตั้งแต่ต้นปี จะพูดจะจาอะไร รอปีหน้าละกัน 55 ช่วงนี้ เตมีย์ใบ้สะดีไหมนะ

Engineer VS Management

เรื่องของคนสองคน ที่บังเอิญมาเจอกัน โต้ต้อบกันด้วยทัศนะของตน มองแล้ว มันใช่เลยจริงๆ อาจเป็นเพราะเราเป็นผู้ที่อยู่ข้างล่าง ก็ได้นะ
 
----------------------------------------------------------------------

A man in a hot air balloon realized he was lost.

He reduced altitude and spotted a woman below.  He descended a bit more and
shouted, "Excuse me, can you help me?  I promised a friend I would meet him
an hour ago, but I don't know where I am."

The woman below replied, "You're in a hot air balloon hovering
approximately 30 feet above the ground.  You're between 40 and 41 degrees
north latitude and between 59 and 60 degrees west longitude."

"You must be an engineer," said the balloonist.

"I am," replied the woman, "How did you know?"

"Well," answered the balloonist, "everything you told me is, technically
correct, but I've no idea what to make of your information, and the fact is
I'm still lost.  Frankly, you've not been much help at all.  If anything,
you've delayed my trip."

The woman below responded, "You must be in Management Level."

"I am," replied the balloonist, "but how did you know?"

"Well," said the woman, "you don't know where you are or where you're
going.  You have risen to where you are due to a large quantity of hot air.
You made a promise which you've no idea how to keep, and you expect people
beneath you to solve your problems.  The fact is you are in exactly the
same position you were in before we met, but now, somehow, it's my fault."
 
 

เทคนิคการดูสัญญาณไฟของรถบรรทุก

ได้มาจาก Forward mail อีกเช่นกัน ฟังแล้วเหมือนสมัยพ่อเคยเล่าให้ฟัง ก็เลย เชื่อว่าไม่มั่ว เหมือนเด็กกรุงชอบบอกว่า ผ่านสีแยก จะไปตรงรีบกดไฟฉุกเฉิน.. ห้าม !!! เด็ดขาดนะคะ อุบัติเหตุเกิดขึ้นเพราะไฟฉุกเฉินเนี่ยแหละ ใช้มั่วกันไปหมดเลย
 
ไฟฉุกเฉิน ให้เปิดเมื่อรถคุณจะ "หยุด" เท่านั้นนั้นนะ หรือข้างหน้ามีอะไร ทำให้ต้องเบรค ไม่ใช่ฝนตก หรือไปตรง เข้าใจผิดค่ะ
 
สำหรับด้านล่างนี้ เอาไว้ออกตจว รักษาตัว และวินัยกันนะคะ ทุกคน :)
 
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
เทคนิคการดูสัญญาณไฟของรถบรรทุก


1.
เปิดซ้ายที ขวาที
สลับกัน หมายความว่าให้ระวัง**
เค้าอาจจะเบรกหรือข้างหน้ามีปัญหา อาจมีด่าน มีอุบัติเหตุ
หรือข้างหน้าเบรกกะทันหัน สรุปก็คือให้ระวังไว้ครับ
อย่าเพิ่งแซงขึ้นไปในตอนนี้ขับตามกันไปก่อน

2.
เปิดซ้ายอย่างเดียว
ถ้ากรณีนี้รถวิ่งตามกันอยู่ในทางและเค้าไม่ได้เข้าจอด**
หมายความว่า เค้ายินดีให้เราแซงขึ้นไปได้ครับ
และถ้าหากเป็นเลนสวนแสดงว่าข้างหน้าไม่มีรถสวนให้เราแซงได้โดยปลอดภัยครับ

3.
เปิดขวา อาจเปิดค้าง หรือเปิดเป็นจังหวะ *
ถ้ารถวิ่งตามกันอยู่แสดงว่าเค้าไม่ให้เราแซงหรือ
เค้าอาจกำลังจะแซงรถคันหน้าหรือกำลังจะเลี้ยวขวาหรือถ้าเป็นเลนสวน
เค้าบอกว่ากำลังมีรถสวนมาครับเพราะงั้น
หากเห็นเค้าเปิดไฟเลี้ยวขวาห้ามแซงออกไปเด็ดขาดครับ
ให้รอจนกว่าเค้าจะแซงไป หรือ จนกว่าเค้าจะเปิดไฟเลี้ยวซ้ายครับ

4.
ในกรณีของการขับรถตามกัน
หากเราแซงขึ้นไปจนพ้น
จะสังเกตได้ว่าเค้าจะทำสองอย่างครับ
อย่างแรกคือในจังหวะที่รถเรากำลังตีคู่กันเค้าจะเปิดไฟสูงให้เราเห็น
ทางข้างหน้าและลดไฟลงต่ำเมื่อเราแซงพ้น
หรือบางคันอาจปิดไฟหน้า หากเป็นตอนกลางคืนนั่นหมายความว่า
เราแซงพ้นแล้ว ให้เข้ามาในเลนได้
แต่ถ้าเป็นกลางวันเค้าจะกระพริบไฟ 1 ทีครับ

หรืออีกอย่าง
เค้าอาจบีบแตรเบาๆเป็นสัญญาณให้ 1 ทีก็ได้ครับ แต่หลักที่นิยมทำกัน
คือเมื่อเค้าเปิดทาง และเราแซงขึ้นไป
เมื่อเราแซงไปในระดับเดียวกับรถเค้าเราจะบีบแตรสั้น 1
ครั้งเป็นการขอบคุณและคุณมักจะได้ยินเค้าบีบตอบสั้น 1 ครั้งเช่นกัน


แล้วถ้าขับสวนกันล่ะ ให้ดูหลายไฟหน่อยนะครับ จะมีไฟหน้า
ไฟเลี้ยวและไฟหัวเก๋งครับ

5.
ขับสวนแล้วดับไฟหน้าแล้วเปิด
ส่วนใหญ่จะมีด่านครับหรืออีกกรณีจะมีอุบัติเหตุร้ายแรงข้างหน้า
ระวังไว้ครับ

6.
กระพริบไฟหน้า
อันนี้ส่วนใหญ่เป็นด่านครับแล้วต้องมองดูดีๆที่ไฟเลี้ยวด้วยครับ
กระพริบไฟหน้าและเปิดไฟเลี้ยวข้างที่ชี้มาทางเรา
ด่านจะอยู่ฝั่งเราครับ
แต่ถ้าเปิดไฟเลี้ยวด้านฝั่งเค้า แสดงว่ามีตำรวจอยู่ฝั่งนู้นครับ
ตอนกลางคืนถ้าเป็นเลนสวนกันขับสวนมาดีๆแล้วกระพริบไฟหน้าครั้งเดียว
บางทีอาจไม่มีอะไรครับ เป็นแค่การทักทาย หรือเป็นการเช็คว่าเราหลับในรึเปล่า

หรือเป็นการถามว่าทางที่เราผ่านมามีอะไร(ตำรวจ) หรือไม่
ถ้าเราไม่หลับไม่เคลิ้ม และทางสะดวกให้กระพริบไฟตอบกลับไป 1 ทีครับ

7.
เลนสวนกัน และมีขบวนรถขับสวนขึ้นมา
ให้มองรถลำดับที่ 2 ในแถวไว้ให้ดีนะครับถ้าเรามาคันเดียวโดดยิ่งต้องระวังครับ
หากรถคันที่ 2 หรือคันต่อๆไปในแถวที่สวนมากระพริบไฟหรือ
อาจจะเบ้หัวออกมานิดหนึ่งและกระพริบไฟ
นั่นแสดงว่ารถคันแรกในขบวนช้า เค้ากำลังจะแซงออกมาแล้วครับ

หากเห็นอย่างนั้น ให้มองให้ดี และเตรียมชะลอความเร็ว
ส่วนใหญ่แล้วพอเค้ากระพริบไฟ เค้าก็จะหักหัวออกมาทันทีครับ
เราทำได้อย่างเดียวนะครับ คือค่อยๆชะลอความเร็ว
และเบี่ยงออกไหล่ทาง

***
ไม่ต้องไปต่อกร หรือไปอวดดีเด็ดขาด ***
พวกนี้พอออกมาแล้วไม่กลับแน่นอนครับ

ยิ่งถ้าพอเค้าออกมาปิด-เปิดไฟหน้าตัวใครตัวมันเลยครับ
รับรองได้ว่าไม่หลบแน่นอน

ทีนี้ถ้าคุณคิดว่ารถคุณแข็งกว่าเค้าแน่ๆ ก็ตามสบายครับ

จำไว้ครับรถใหญ่บนทางหลวงเค้าไม่ลงไหล่ทางแน่นอนครับ
เพราะว่ารถมันหนัก ถ้าลงไหล่ มันจะเอาไม่อยู่และพลิกคว่ำทันทีครับ
เพราะงั้นหลบได้ก็หลบเถิด
และอีกอย่างหนึ่งรถใหญ่หนัก เค้าจะไม่ค่อยเบรกกัน
เมื่อเค้าได้รอบได้จังหวะ เค้าจะออกมาทันที เราต้องเป็นฝ่ายหลบนะครับ

จริงอยู่มันอาจดูว่าเค้าผิด แต่หากว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วความผิดหรือถูก
มันก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตหรอกครับ

 

 

โดดตึก

เป็นเรื่องราวที่ได้จาก forward mail อยากแบ่งปันนานแล้ว เป็นเรื่องราวที่เตือนสติได้ดีเรื่องหนึ่ง แต่เพิ่งรู้วิธีง่ายๆ :) ลองอ่านดูนะ

ลายเส้น

ไม่ได้มีฝีมืออะไรเลย อยู่ว่างๆ ในห้องประชุม (จริงๆไม่ควรว่างนะ) เบื่อๆ ก็จะขีดๆ เขียนๆ หน้าคนบ้างโน่นนี่บ้าง แต่ไม่ค่อยเป็นรูปร่างเท่าไหร่ ไม่เคยฝึกวาดภาพแบบจริงๆ จังๆ อยากวาดหน้าตัวเอง ผมหยิกบ้าง ยาวบ้าง แต่วาดยังไงก็ไม่ได้หน้าตัวเองหรอก อิอิ
 
จริงๆ ถ้าดูในกระดาษ ก็เป็นแค่ลายเส้นไม่น่าสนใจอะไรเลย แต่เมื่อใส่ effect บ้างไรบ้างลงไปบนรูปวาดสักหน่อย มันก็จะดูได้ขึ้นมานะ ถึงจะไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก แต่ก็อยากเก็บไว้เป็น คอลเลกชั่น ล่ะนะ
 
เพื่อนเคยพูดถึงลายเส้นไว้อย่างน่าสนใจนะ ชีวิตคนเราก็เหมือนลายเส้น ขีดไปแล้ว ลบยังไงก็เหลือรอยจางๆ อย่างดี เราก็แค่วาดลงไปใหม่ ระบายสีทับ ให้อะไรที่ผิดพลาด มันถูกซุกอยู่ใต้ความงามที่ปกปิดมันไว้ ไม่มีอะไร ที่หายไปจากชีวิตเราได้หรอก มีก็แค่ ลืมเลือนมันไป
 
ก็คงเป็นอย่างนั้นสินะ

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อ่อนแอเพราะนักเธอมากกว่าใคร่จะเข้าใจ

กำลังฟังเพลงกับบลูทูธใหม่ที่เพิ่งซื้อมะวานนี่
ดิเจเจ้แหม่มเปิดเดียวต่างอายุเลยทีเดียว

ลันลา

ถ้าพิมพ์ไม่ผิดเลยก็ดีสิ

แหม พอไม่ได้ใช้คีย์บอร์ดแบบวางมือ เลยไม่รู้จะพิมพ์สัมผัสบนกาแลกซี่แทบยังไงน่ะสิ นี่สงสัยต้องหัดพิมพ์สัมผัสบ้างแล้ว แต่จะพิมพ์ยังไงล่ะ นิ้ลอยๆ งง หรือต้องทำเหมือนเวลาเล่นกีร์ต้าฮีโร่!!!

HEAL THE WORLD

for u and for me

เขียนอักษรกลับหัว

ล่วงรู้ถึงความสามารถตัวเองเอาตอนเข้ามหาลัยปีต้นๆ ตอนที่อยากจะบ่นอะไรออกมาดังๆ แต่ทำไม่ได้ ครั้นจะเขียนอะไรก็มีแต่คนคอยแอบอ่านอยู่ร่ำไป เลยปิ้งไอเดียมี่ว่า เขียนแล้วอ่านได้คนเดียว ใครมีปัญญา ก็มาอ่านเอาเดะ 55555

หลังๆ ดูหนังสารคดีหนึ่งเขาบอกว่า เด่กออทิสติกจะมีความสามารถเข้าใจเส้นที่เบี้ยว เป็นเส้นตรงได้ ภาพหน้าตรงเป็นภาพกลับหัว จะมีการรับรู้ผิดคนธรรมดา ก็ยังคิดอยู่ว่า เราเป็นเด็กพิเศษกะเขาด้วยรึเปล่าน้า ^^

the ugly truth

เป็นภาพที่บ่งบอกอะไรไม่เยอะ แต่มองแล้วถึงบางอ้อ


that's it!!

เดอะ เด็ฟ

วันหนึ่ง เดินซื้อของข้างถนน เจอชายวัยรุ่นคนนึงนะ เขาขายการ์ดอยู่ กสร์ดเขาน่ารักมาก เป็นภาพวาดทั่งนั้น มองไกลๆ คิดว่าพิมพ์เอาสะอีก พอเดินไปใกล้ๆ ก็เห็นเขากำลังใช้ปากกาหัวเล็กๆขีดเส้นไปเรื่อยๆ อ้าว ยีาเขานั่งวาดเองเอากับมือ ทีละแผ่นๆ เชียวนะ
การเลิกใช้สี ก็ดูเข้าท่านะ วาดลายเส้นเป็นสีดำ แล้วเน้นองค์ประกอบเล็กๆ เป็นสีแดงรึสีชมพู และมี่สำคัญ ดวงตาของตัฝการ์ตูนช่างซื่อเสียเหลือเกิน
เดินเข้าไปถาม ถึงรู้ว่า เอ่อ เขาไม่ได้ยินหรอกนะ เขาพิการทางหู (มั้ง) ไม่พูดไม่ตอบ บอกแต่ราคาการ์ด ซึ่งก็จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่ แต่ก็อุดหนุนมา 2แผ่น ชอบตรงมี่ เขาขายความสามารถ ซึ่งเราจะสนับสนุนพวกนี้เสมอ ใช่เพราะเขาพิการ แต่ถ้าเขาพิการเราจะต่อราคาน้อยหน่อยหรือไม่ต่อเลยเท่านั่น ^^

สมุดบันทึก

เมื่อ2ปีก่อน ซื้อสมุดมาเล่มนึง กะว่าจะเขียนอะไรทุกวันๆ เท่าที่จะทำได้ ตอนนั้นยังไม่เล่น twitter และwebboard ก็เริ่มจะน่าเหนื่อยหน่าย เวลาว่างเยอะเหลือเกิน ความคิดก็ฟูมฟาย เพ้อเจ้อ หงุดหงิด เหวี่ยงไปวันๆ เลยคิดว่า การเขียน เป็นอะไรที่ช่วยได้นะ

สำหรับคนที่มีจินตนาการลึกๆ มักมีเรื่องเล่ามากมาย แต่เราเป็นแต่คิดเล่าอะไรไม่ค่อยเก่ง เมื่อก่อนก็เคยลองแต่งเรื่องนั่นเรื่องนี่เรื่อยเปื่อย แต่สรุปว่า มักจะจบไม่ลง :)

อาจเป็นเพราะตัวเองเป็นคนไม่ชอบให้อะไรๆมันจบลงง่าย สั้น เร็วเกินไป ชอบที่จะใช้เวลากับอะไรๆจนถึงที่สุด หากมันจะจบไม่ลง และไม่เห็นทางไปจริงๆ ก็คงต้องทิิ้งมันไปเลย นิสัยไม่ดีเลยน้า ^^

ใครบอกว่าเราเป็นคนมั่นใจ เฮ้อ มันก็แค่เชื่อมั่นเท่านั้นเอง ถ้าเราไม่เชื่อมั่นในตัวเรา ใครจะให้กำลังใจเราล่ะ คนมี่ให้กำลังใจตัวเองได้ดีที่สุดก็ต้องเป็นตัวเองจริงไหม

อ่า..... สมุด... ใช่ จะพูดเรื่องสมุดนะว่าตอนนี้ซื้อมาจะ2ปีละ ยังเขียนได้ไม่ถึงครึ่งเล่มเลยม้าง อ่ะอ่า เพราะรายมือดูไม่ค่อยรู้เรื่องด้วยล่ะ ก็เลยอยากจะฝึกคัดลายมือ แต่ท่าทาง จะไม่ไดฝึกเท่าไหร่ เพราะลายมือไม่ได้สวยขึ้นเล้ยยยย จริงๆ

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

black sugary @The city viva

เวลาที่ ใจเหมือนจะหาหลักแหล่งไม่ได้ บินไปบินมา รึลอยเคว้งคว้าง การหาที่เงียบๆ น้ำหวานสักแก้ว นั่งรอใจให้บินกลับมา ก็น่าจะดีนะ

ถ้าเป็นตอนดึก อากาศดีๆ จะมาที่ริมแม่น้ำ ปล่อยใจไปกลับสายน้ำไหลเย็น แต่ถ้าเป็นตอนกลางวันแบบนี้ ร้านกาแฟน่าจะเป็นคำตอบแรก

พอดีวันนี่ว่าง ก็เลยเข้าเมืองหาที่ดื่มกินสักหน่อย Sugary ที่ The city viva นี่ก็เป็นทางเลือกที่ดีเลย เป็นที่ใหม่สะด้วย แปลว่า ยังไม่เบื่อ :)

ว่าแล้วก็ อยากมีร้านกาแฟบ้างจัง..

เรื่องเก่า ที่วนเวียนเล่าใหม่ไม่รู้จักจบ

There's a girl in the mirror I wonder who she is
Sometimes I think I know her Sometimes I really wish I did There's a story in her eyes Lullabies and goodbyes
When she's looking back at me
I can tell her heart is broken easily

'Cause the girl in my mirror Is crying out tonight
And there's nothing I can tell her To make her feel alright
Oh the girl in my mirror Is crying 'cause of you
And I wish there was something Something I could do

If I could I would tell her Not to be afraid
The pain that she's feeling The sense of loneliness will fade
So dry your tears and rest assured Love will find you like before
When she's looking back at me
I know nothing really works that easily

'Cause the girl in my mirror Is crying tonight
And there's nothing I can tell her To make her feel alright
Oh the girl in my mirror Is crying 'cause of you
And I wish there was something
I wish there was something
Oh I wish there was something I could do

I can't believe it's what I see
That the girl in the mirror
The girl in the mirror
Is me (ah...)

......

ฉันคนเก่า บัวชมพู ฟอร์ด

นี่ตัว ฉัน หรือใครกัน ยิ่งดูแล้วเศร้า ใจ
ปล่อยตัว เอง ไม่สนใจ ว่าใครเป็นห่วง
เอา แต่ร้อง ร้องไห้ไปวันๆ ไม่สงสารตัวเอง บ้างเลย
จะคิดถึง ถึงเขา ให้ต้องเจ็บ อีกแค่ไหน ยังไง เขาคงไม่คืน มา

กลับไปเป็น ฉันคนเก่า ที่เหงา ในบางวัน
แต่ไม่เคย ต้องร้าวราน แหละร้องไห้ ให้ใคร
ไป แคร์ เขาทำไม ให้เสีย ใจมากมาย คุ้มมั๊ย เพื่อคน ไม่รักกัน กับเป็น ฉันคนเก่า ลืมเขาทิ้ง ไป

ก่อนนั้น เคย ไม่มีใคร ก็ ยังยิ้มได้ เลย
ก็คง ทำ ได้เหมือนเคย ใช่ไหมตัวเรา
มัน อาจเหงา เคว้งคว้าง ไม่มีใคร ไม่ เคยกลุ้มใจ เสียน้ำตา จะคิดถึง ถึงเขา ให้ต้องเจ็บ อีกแค่ไหน ยังไง เขาคงไม่คืน มา

กลับไปเป็น ฉันคนเก่า ที่เหงา ในบางวัน
แต่ไม่เคย ต้องร้าวราน แหละร้องไห้ ให้ใคร
ไป แคร์ เขาทำไม ให้เสีย ใจมากมาย คุ้มมั๊ย เพื่อคน ไม่รักกัน กับเป็น ฉันคนเก่า ลืมเขาทิ้ง ไป

....

บางที ช่วงชีวิตหนึ่งของคนเรา มันก็ไปตรงกับเพลงอบ่างไม่น่าเชื่อ
เพลงบางเพลง ตรงครั้งเดียว บางเพลงตรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่ไอ้เพลงตรงๆนี่แหละ ที่ให้คิดได้ว่า นี่แหละคือทำนอง
ถ้ายังร้องเพลงเดิม ทำนองเดิม คนร้องคนแต่งเดิม
มันก็ จะมีอะไรมากไปกว่านี้ล่ะ?

เคารพซึ่งกันและกัน

อยากบอกทุกคนไว้ เลือกตั้งไม่ได้หยุดความขัดแย้งทุกอย่าง ไม่หยุดความยากจน ไม่หยุดคอรัปชั่น การชุมนุม เรียกร้อง กระทำผิด ลากไส้ในสภาจะยังคงอยู่

ไม่ว่าเบอร์ไหนจะได้จัดตั้งรบ. การชุมนุมจะยังคงมีอยู่ถ้าความต้องการพื้นฐานของปชช ที่ต้องมี รึต้องได้ยังขาดไป รึยังต้องพัฒนา

หลังจากการเลือกตั้งวันนี้แล้ว ทุกฝ่ายต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง แต่ในฐานะปชชเต็มขั้น ขอให้ทุกคนยอมรับสิทธิพื้นฐานของการชุมนุมที่จะมีขึ้นด้วย

การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่ใช่การยอมรับเพียงเสียงส่วนใหญ่ แต่เสียง"ทุกเสียง"ความได้รับการตอบรับและแก้ไข โดยไม่เลือกภาค ส่วน ฐานะ ศาสนา

เคาระซึ่งกันและกัน นะคะ

แม้บางคนจะขอบหมู บางคนชอบไก่ บางคนกินกุ้ง แต่เราก็สั่งกระเพราเหมือนกัน
แม้เราจะเลือกสั่งอาหารคนละเมนูกัน แต่เราก็เลือกร้านอาหารเดียวกัน
แม้เราจะเลือกร้านอาหารคนละร้านกัน แต่เราก็เลือกที่จะกินอาหารไทยด้วยกัน
ถึ.แม้เราจะชอบอาหารจ่างปนะเทศบ้างไรบ้าง แต่เราก็รักประเทศไทยเหมือนๆกัน

ชิมิ

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

The CITY VIVA

วันนี้ไปเดินเล่นที่ห้างเปิดใหม่ย่านนราธิวาส-สาธร เคยผ่านๆอยู่หลายมี แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักที วันนี้ว่าวๆก็เลย ไปๆซะ ให้สิ้นเรื่องสิ้นราว จะได้ไม่มาบ่นกะตัวเองอีกว่า อยากไปๆๆๆๆๆ อีกที่นึงที่ยังไม่ได้ไปก็คือ Ths circle ย่านพระราม 5 โน่น ไว้ไปแล้วจะเอามาเล่าให้ฟัง

ฟ้าฝนเป็นใจจริงๆ มาที่นี่ฝนไม่ตก อกาศดี ที่จอดรถด้านในเต็มแต่พอเข้าไปในห้องแล้วคนน้อยมาก ชั้น1เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต ชั้น2เป็นแบ่งเป็นห้องเล็กๆขายเสื้อผ้า ของจุกจิกเล็กๆน้อยๆของผู้หญิง ส่วนชั้น3ขายของกิน มีไม่มากนัก แต่ก็หลากหลายพอสมควร

ด้านนอกของชั้นบนทำกิ้บเก๋ มีระเบียงออกไปนั่งชิวๆมีผับอยู่ร้านนึง เอาไว้จะเรียกเพื่อนๆมานั่งดริ้งสบายๆ แล้วจะมาเล่าอีกที